พระอุปคุตมีความสำคัญต่อชาวเหนือเพียงใด วัดอุปคุตก็มีความสำคัญมากมายเพียงนั้น ซึ่งที่วัดนี้มีการจัดประเพณี ใส่บาตรพระอุปคุตเป็นประจำทุกปี ซึ่งชาวเหนือเชื่อว่าหากเดือนใดมีวันเพ็ญที่ตรงกับวันพุธหรือที่เรียกว่า “เป็งปุ๊ด” พระอุปคุตจะแปลงกายเป็นเณรมาบิณฑบาตรตอนเที่ยงคืน และใครก็ตามที่ได้ใส่บาตรพระอุปคุต จะได้บุญมาก ดังนั้นงานบุญประเพณีนี้จึงมีเอกลักษณ์อยู่ที่การใส่บาตรตอนเที่ยงคืนนั่นเอง ตำนานแห่งวัดอุปคุต มีตำนานเกี่ยวกับพระอุปคุตเล่าสืบกันมาว่า ครั้งหนึ่งมีสามีภรรยาฐานะยากจนคู่หนึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่นอกเมืองเชียงใหม่ ประกอบอาชีพทำนาและค้าขายพอเลี้ยงชีพไปได้ เมื่อว่างจากทำนาทั้งสองก็นำเอาผลผลิตจากไร่สวน เข้าไปมาขายในตัวเมืองเชียงใหม่ วันหนึ่งในฤดูหนาว อากาศหนาวเหน็บ สองสามีภรรยาตื่นแต่เช้า เพื่อเดินทางเข้าตัวเมืองพร้อมกับสัมภาระสำหรับค้าขาย ระหว่างเดินฝ่าอากาศที่หนาวเย็น ก็ได้พรรณนาปรับทุกข์ต่อกันถึงความทุกข์ยากของครอบครัวที่ต้องทำงานหนัก และหากไม่ทำเช่นนี้ก็ต้องอดอยาก ไม่มีจะกิน ทั้งสองต่างปลอบใจและให้กำลังใจซึ่งกันและกันและว่าเราสองคนทำบุญมาน้อย ทำให้ด้อยวาสนา ทุกข์สาหัสอย่างไรก็จำเป็นต้องทน ต้องดิ้นรนต่อสู้ต่อไป ทั้งคู่ปรับทุกข์กันเรื่องมาจนข้ามแม่น้ำปิงมาฝั่งตะวันตก เข้าถนนท่าแพ ขณะนั้นยังเป็นเวลาเช้ามืด และเป็นวันพระขึ้น 15 ค่ำ พระจันทร์เต็มดวงสาดแสงสว่างไสวดูสวยงามน่ารื่นรมย์ ทำให้ความเหนื่อยล้าของสามีภรรยาหายไปสิ้น ขณะเพลิดเพลินกับบรรยากาศอยู่นั้น สายตาของทั้งคู่ก็เหลือบไปเห็นสามเณรน้อยรูปหนึ่งกำลังอุ้มบาตร ครองผ้าเป็นปริมณฑลตัดกับแสงจันทร์นวลส่อง เป็นภาพที่งดงามและยังความปิติซาบซ่านเข้าสู่หัวใจของทั้งสอง จึงบังเกิดศรัทธาในตัวสามเณร และได้แบ่งสิ่งของที่ตั้งใจนำไปขาย ยกขึ้นอธิษฐานแล้วใส่ในบาตรของสามเณร หลังจากรับพรจากสามเณรแล้ว ชายผู้เป็นสามีนึกแปลกใจว่าสามเณรจากวัดใดกันแน่ที่ออกบิณฑบาต แต่เช้าตรู่เพียงลำพังเช่นนี้ เขาจึงเดินตามสามเณรไป แต่สามเณรก็เดินไปถึงชายป่าแล้วหายวับไปที่ต้นไทรต้นหนึ่ง สามีเห็นเช่นนั้นก็วิ่งกลับมาบอกกับภรรยาและต่างเก็บความสงสัยไว้ในใจ นับแต่วันนั้นสองสามีภรรยาก็เจริญรุ่งเรือง ขึ้นตามลำดับไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็ได้ผลกำไรงาม และมีฐานะร่ำรวยขึ้น ต่อมาจึงทราบจากพระผู้เฒ่ารูปหนึ่ง ผู้ทรงอภิญญาญาณเคร่งครัดในศีลว่า การที่เจริญก้าวหน้าค้าขายร่ำรวยนั้น เนื่องจากอานิสงส์ที่ได้ตักบาตรกับสามเณร ผู้ซึ่งก็คือพระอุปคุตมหาเถระที่เข้านิโรธสมาบัติอยู่ใต้สะดือทะเล ครั้นถึงวันพระขึ้น 15 ค่ำ ท่านจะแปลงเป็นสามเณรน้อย ออกบิณฑบาตแต่เช้าตรู่เพื่อโปรดสัตว์ บุคคลใดได้ตักบาตรท่านพระมหาอุปคุต ถือว่าเป็นบุคคลที่โชคดี ทำให้เจริญรุ่งเรืองสองสามีภรรยาได้ฟังก็เกิดปิติศรัทธา จึงได้สร้างวัดขึ้นตรงบริเวณที่พบสามเณรน้อย ชาวบ้านเมื่อทราบข่าวต่างมาร่วมอนุโมทนาและช่วยเหลือร่วมทำบุญ โดยตั้งชื่อวัดนี้ว่าวัดพระอุปคุต ต่อมาเปลี่ยนเป็นเรียกสั้น ๆ ว่าวัดอุปคุตมาจนทุกวันนี้ ที่ตั้ง : ตั้งอยู่บนถนนท่าแพ ด้านสะพานนวรัฐ ลงจากสะพานสี่แยกมาประมาณ 10 เมตร จะพบวัดอยู่ทางด้านซ้ายมือ