“โชติวัฒน์”ประธานศาลฎีกา ตรวจเยี่ยมศาลจังหวัดเชียงใหม่ ศาลจังหวัดลำพูนและใกล้เคียง เน้นย้ำบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ คดีไม่ค้างพิจารณานานเกินไป พร้อมให้ความสะดวกด้านคดีแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อให้ศาลเป็นที่พึ่งของประชาชน
วันนี้ (15 ธ.ค.) เวลา 08.00 – 16.30 น. นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ ประธานศาลฎีกา พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่ผู้พิพากษา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้พิพากษาสมทบ และผู้ประนีประนอม ในพื้นที่ศาลยุติธรรมภาค 5 คือ ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ศาลแขวงเชียงใหม่ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ ศาลจังหวัดลำพูน และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดลำพูน ในการนี้ศาลจังหวัดฝางและศาลแขวงเชียงดาวเข้าร่วมรับการตรวจเยี่ยม ณ อาคารศาลจังหวัดเชียงใหม่ด้วย
การตรวจเยี่ยมวันนี้ มีนายวัฒนา ชินรัตน์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเชียงใหม่ นายไกรวิช จามรมาน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดฝาง นายสัณห์วิชญ์ โกสุม ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงเชียงดาว นายนพกร กล่ำทวี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงเชียงใหม่ นางภาวินี บุณยประสพ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ นายภัทรพล เอกทันต์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดลำพูน
และนางสมปรารถนา แสงสุริยะฉัตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดลำพูน พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ
นายโชติวัฒน์ ประธานศาลฎีกา เปิดเผยว่า การตรวจเยี่ยมศาลทั้งในส่วนกรุงเทพมหานครและในส่วนภูมิภาค มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการนำนโยบาย “รักศาล ร่วมใจ รับใช้ประชาชน” มาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม สร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้พิพากษา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และบุคลากรทุกภาคส่วน พร้อมทั้งให้คำแนะนำในเรื่องการบริหารจัดการคดี ตลอดจนรับฟังปัญหาและแก้ไขข้อขัดข้องในด้านต่าง ๆ จากศาลและบุคลากรที่เข้ารับการตรวจเยี่ยม โดยประธานศาลฎีกาเน้นย้ำว่า ทุกศาลมีความสำคัญเท่าเทียมกัน ไม่ว่าศาลขนาดใหญ่หรือศาลขนาดเล็ก ศาลที่พิจารณาคดีสามัญทั่วไปหรือศาลที่พิจารณาคดีชำนัญพิเศษ สิ่งที่จะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของศาลคือการบริหารจัดการคดีอย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณภาพ และทำให้ประชาชนได้รับบริการโดยง่าย สะดวก ประหยัด รวดเร็ว เสมอภาค และเท่าเทียม เพื่อบรรลุเป้าหมายในการบริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพและเต็มกำลังความสามารถตามนโยบายประธานศาลฎีกา สำหรับศาลในจังหวัดเชียงใหม่นั้น ควรวางแผนการบริหารจัดการคดีอย่างรอบคอบ คำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อคู่ความทั้งสองฝ่าย โดยเร่งรัดกระบวนพิจารณาเพื่อไม่ให้มีคดีค้างพิจารณานานเกินสมควร พร้อมกันนี้ได้แสดงความชื่นชมในเรื่องการจัดทำโครงการที่โดดเด่นและเป็นประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ การนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการพิจารณาพิพากษาคดี การประชาสัมพันธ์และการบริการประชาชนในด้านต่าง ๆ รวมถึงการปรับตัวรองรับบริบทของพื้นที่ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยว โดยสามารถให้บริการชาวต่างชาติที่มาติดต่อราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประธานศาลฎีกา ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริหารจัดการคดีให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานกลาง การจัดระบบการจ่ายสำนวนคดี การเพิ่มคดีเข้าสู่ระบบไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท การวางแผนการสืบพยานอย่างมีประสิทธิภาพ การไม่เลื่อนการพิจารณาคดีโดยไม่มีเหตุผลและความจำเป็น และการดำเนินการอื่นใดเพื่อให้สอดคล้องกับพ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ.2565 ซึ่งกำลังจะมีผลใช้บังคับ พร้อมกันนี้ได้ให้กำลังใจผู้พิพากษา ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในการร่วมมือร่วมใจเร่งรัดการดำเนินกระบวนพิจารณาและสะสางคดีที่ค้างพิจารณาเป็นเวลานาน อันเป็นการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน บรรเทาความเดือดร้อนของผู้มีอรรถคดี เพื่อให้ศาลยุติธรรมเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง
ตลอดระยะเวลาการตรวจเยี่ยมศาล ประธานศาลฎีกาได้ทักทาย พูดคุยและรับฟังปัญหาข้อขัดข้องจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามส่วนงานต่าง ๆ รวมถึงให้กำลังใจในการปฏิบัติงานและขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ
โดยประธานศาลฎีกาและคณะมีกำหนดการที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมศาลในจังหวัดลำปาง ในวันที่ 16 ธ.ค. 2565