เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เชียงใหม่-ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 ชี้สถานการณ์โควิด-19 อยู่ในช่วงขาขึ้น แถมยังไม่ถึงจุดสูงสุด พบการระบาดในสถานที่ทำงานเพิ่มอีกหลายแห่ง ย้ำต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ยิ่งขยายวงกว้าง
ช่วงค่ำวันนี้(8 พ.ย.64) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 374 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อจากต่างจังหวัดเพียง 4 ราย โดยมาจากกรุงเทพฯ 2 ราย ขอนแก่น และเชียงราย จังหวัดละ 1 ราย ที่เหลืออีก 370 เป็นการติดเชื้อภายในจังหวัด ซึ่งมาจากคลัสเตอร์ใหม่และคลัสเตอร์ที่มีการระบาดต่อเนื่อง ได้แก่ ร้านซ่อมรถ AN การช่าง หมู่ 3 ตำบลหนองหอย 7 ราย ,หมู่บ้านการเคหะหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ 6 ราย ,ไซต์งานก่อสร้างบ้านสันมะเกี๋ยง ตำบลสำราญราษฎร์ อำเภอดอยสะเก็ด 6 ราย และบ้านนายจ้าง หมู่ 1 ตำบลสันโป่ง อำเภอแม่ริม 4 ราย
ส่วนคลัสเตอร์เดิมที่อยู่ระหว่างการควบคุมโรค เป็นการตรวจพบกลุ่มเสี่ยงระหว่างการกักตัว การออกตรวจเชิงรุก และการติดตามผู้สัมผัส ซึ่งยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีกหลายคลัสเตอร์ ประกอบด้วย คลัสเตอร์กลุ่มตลาด ได้แก่ ตลาดเมืองใหม่ 20 ราย ,ตลาดวโรรส 3 ราย ,ตลาดประตูก้อม 2 ราย ,ตลาดหนองหอย 2 ราย ,ตลาดรวมโชค 2 ราย ,ตลาดประตูเชียงใหม่ ตลาดสันป่าข่อย ตลาดต้นลำไย ตลาดยางเนิ้ง ตลาดเอื้องคำ ตลาดเจริญเจริญ ตลาดกิ่วแลน้อย สันป่าตอง ตลาดแม่โจ้พลาซ่า พบแห่งละ 1 ราย พร้อมกันนี้พบการติดเชื้อในแคมป์คนงานก่อสร้างและชุมชนต่างด้าว อีกหลายแห่งด้วยกัน
ขณะเดียวกันวันนี้ยังพบการติดเชื้อในสถานที่ทำงานเพิ่มอีกหลายที่ เช่น โรงงานส้มประวิทย์ ตำบลขี้เหล็ก อำเภอแม่แตง ,บริษัทเชียงใหม่ริมดอย หมู่ 4 ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง ,โรงแรมเชียงใหม่ออร์คิด ,เซ็นนทรัลแอร์พอร์ต ,บริษัทพรีโก้ อำเภอสันกำแพง ,โรงแรมยูเรเชีย ,โกลบอลเฮ้าส์ อำเภอสารภี ,โรงพยาบาลลานนา ,โรงพยาบาลหางดง และอีกหลายแห่ง พบรายใหม่ 1-2 ราย ต้องเฝ้าระวังและดำเนินการควบคุมโรคอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเป็นวงกว้างได้ นอกจากนี้ยังพบผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า 122 ราย ส่วนการระบาดในครอบครัวพบอีก 35 ครอบครัว กระจายตัวอยู่ในหลายอำเภอ รวมผู้ติดเชื้อ 66 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 83 ราย
สำหรับรายละเอียดของผู้เสียชีวิต 2 รายวันนี้ รายแรก เป็นชายไทย อายุ 82 ปี มีโรคประจำตัว เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และไตวาย ประวัติการติดเชื้อไม่ชัดเจน และได้รับวัคซีนชนิดซิโนแวค 1 เข็ม เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม โดยวันที่ 1 พฤศจิกายน เริ่มมีอาการไอ หายใจเหนื่อย ต่อมาวันที่ 4 พฤศจิกายน เหนื่อยหอบมากขึ้น รถฉุกเฉินจึงนำส่งที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ และตรวจ RT-PCR พบว่าติดเชื้อโควิด จึงรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ วันที่ 6 พฤศจิกายนติดเชื้อเข้ากระแสเลือด ระบบหายใจล้มเหลว เสียชีวิต เวลา 03.05 น.
อีกราย เป็นชายไทย อายุ 85 ปี มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ปอดอุดกั้นเรื้อรัง และไตวาย ติดเชื้อจากคนในครอบครัว และไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีน โดยวันที่ 28 ตุลาคม บุตรชายติดเชื้อโควิด จึงได้ตรวจ RT-PCR พบว่าติดเชื้อโควิด และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลฝาง วันที่ 4 พฤศจิกายน เหนื่อยมากขึ้น ออกซิเจนในเลือดต่ำ ให้การรักษาแบบประคับประคอง จนวันที่ 6 พฤศจิกายน ระบบหายใจล้มเหลว เสียชีวิต เวลา 06.00 น
โดยสถานการณ์โควิด-19ของจังหวัดเชียงใหม่นั้น นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของจังหวัดเชียงใหม่ในขณะนี้ ยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ยังไม่ถึงจุดสูงสุด โดยแนวทางที่สำคัญในห้วงสัปดาห์นี้คือการเร่งค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างรวดเร็ว สำหรับประชาชนที่ซื้อชุดตรวจหาเชื้อมาตรวจด้วยตนเอง หากพบมีผลบวกให้รีบแจ้งผลการตรวจไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งหากไม่มีอาการจะรักษาด้วยการแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) โดยจะมีการจัด Set Box ยาและอุปกรณ์ต่าง ๆ และมีทีมแพทย์โทรสอบถามอาการเป็นประจำทุกวัน ซึ่งหากพบว่ามีอาการแย่ลงจะได้ส่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่อไป