สำหรับคาร์ม็อบนี้ ถูกกำหนดเส้นทางเข้าสู่เขตเมือง ก่อนวนรอบคูเมืองทั้งด้านในและด้านนอก เข้าสู่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ซึ่งระหว่างทางมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ไม่เป็นอุปสรรค กลุ่มคาร์ม็อบยังคงมุ่งหน้าเดินทางตามเป้าหมาย โดยในวันนี้ นอกจากเคลื่อนขบวนคาร์ม็อบ กลุ่มผู้ชุมนุมยังเตรียมทำกิจกรรมเผาศพรัฐบาล เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อีกด้วย
ขณะที่กิจกรรมคาร์ม็อบที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ในจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าในวันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้นำแผงเหล็กปิดกั้นพื้นที่รอบอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ไม่อนุญาตให้เข้าไปทำกิจกรรมในพื้นที่ มีการวางกำลังป้องกันตลอดแนวแผงเหล็ก โดยมีกลุ่มคาร์ม็อบปักหลักบนถนนพระปกเกล้า ห่างแนวแผงกั้นประมาณ 10 เมตร
หลังจากเคลื่อนขบวนถึงลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ แต่เจ้าหน้าที่ปิดกั้นพื้นที่ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่จัดกิจกรรม โดยในระหว่างการคุมเข้มพื้นที่ พ.ต.อ.ภูวนาถ ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ประกาศขอความร่วมมือกับให้ยกเลิกการจัดกิจกรรมและขอไม่ให้มีการชุมนุมในพื้นที่บริเวณดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยและเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ต่อมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนย้ายจุดไปรวมตัวจัดกิจกรรมที่บริเวณข่วงประตูท่าแพแทน มีประชาชนจำนวนหลายร้อยคนร่วมขับไล่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นอกจากนี้ตามถนนรอบคูเมืองยังคงมีบรรดาประชาชนที่ขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์พากันบีบแตรเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการร่วมการชุมนุมด้วย กระทั่งในเวลา 18.50 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ร่วมกันทำกิจกรรมเผาศพรัฐบาล โดยนำภาพถ่ายของพลเอกประยุทธ์ มาจุดไฟเผาพร้อมกับพวงหรีด สำเนาประกาศมาตรการคำสั่งต่าง ๆ ของรัฐบาล ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมบอกว่าเป็นการเผาส่งรัฐบาลประจานความล้มเหลวในการบริหารประเทศและแก้ไขปัญหาโรคระบาดโควิด-19 ก่อนแยกย้ายสลายการชุมนุมในเวลาประมาณ 19.00 น. โดยไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น
ด้าน นายหาญศักดิ์ เบญจศรีพิทักษ์ หรือ ด.ต.พิชิต ตามูล ผู้ประสานงานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. 17 จังหวัดภาคเหนือ เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้ ไม่ทราบว่ากลุ่มไหนเป็นแกนนำในการจัด ส่วนหนึ่งคาดว่าต้องการจัดขึ้นมาเพื่อให้สอดรับกับกลุ่มการเคลื่อนไหวที่จัดขึ้นในส่วนกลาง ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ หลายคนคงทราบดีว่า จัดขึ้นมาเพื่อให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของทางส่วนกลางที่นำสถาบันมาเกี่ยวข้อง ทำให้การเคลื่อนไหวของส่วนกลางในวันนี้มีคนไม่มากนัก เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังให้ความนับถือสถาบันอยู่ การนำสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องจึงทำให้คนตัดสินใจไม่ออกมาร่วมกับการเคลื่อนไหว
นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมคาร์ม็อบของกลุ่มคนเสื้อแดง 2 ครั้งที่ผ่านมาได้รับความสนใจอย่างมาก จึงได้วางแผนให้กลุ่มคนเสื้อแดงได้พัก ก่อนที่จะจัดกิจกรรมใหญ่อีกครั้งในสัปดาห์หน้าทั่วกันทั้งประเทศในรูปแบบคาร์ม็อบเช่นเดิม ซึ่งการทำงานของกลุ่มคนเสื้อแดงจะมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ ดังนั้น จึงขอยืนยันว่า การจัดกิจกรรมขึ้นมาในวันนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น แต่อย่างไรก็ตามจะออกไปสังเกตการณ์การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ออกหมายเรียกผู้ร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบครั้งแรกที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 จำนวน 5 คน โดยให้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 10 สิงหาคม นี้ ส่วนข้อหายังไม่เปิดเผยกับสื่อมวลชน แต่คาดว่าจะเป็นข้อหาชุมนุมเกิน 50 คน ที่เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่