วินาทีสยอง สาวประเภทสอง เซล้มไปโดนรั้วลานจอดรถสถานบันเทิงที่เชียงใหม่ถูกไฟดูดเสียชีวิตในคืนฮาโลวีน มีเพจโพสต์ ปิดข่าวเงียบ เจ้าของยืนยัน เหตุเกิดลานจอดรถ ไม่เกี่ยวกับร้าน ตำรวจเร่งสอบสวนสาเหตุ หากพบว่ามีคนกระทำโดยประมาทต้องถูกดำเนินคดี
วันที่ 2 พ.ย. พบภาพกล้องวงจรปิดบริเวณลานจอดรถเอกชนหน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง เชียงใหม่ บันทึกภาพสาวประเภทสองกลุ่มหนึ่งอยู่ข้างรั้วลานจอดรถพูดคุยหยอกล้อกันหลังจากที่สถานบันเทิงปิดโดยกลุ่มสาวสองกลุ่มนี้มีประมาณ 5-6 คน ก่อนที่สาวสองคนหนึ่งผมยาวสวมชุดสีดำจะนั่งยองๆ ข้างรั้วพูดคุยกับเพื่อน แค่เสี้ยววินาที สาวสองคนดังกล่าวได้พลาดท่าเซไปถูกรั้วลวดตาข่ายถูกไฟดูดนอนแน่นิ่ง เพื่อนที่มาด้วยในกลุ่มทั้งสาวสองและผู้ชายผลัดกันเข้าไปดึงตัวคนที่ถูกไฟดูดออกมาจากที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถดึงออกมาได้เพราะถูกไฟดูดเหมือนกัน กระทั่งมีเพื่อนคนหนึ่งใช้ถุงพลาสติกสวมมือดึงตัวออกมาจากบริเวณรั้วที่เกิดเหตุได้ แต่สาวสองคนดังกล่าวหมดสติชีพจรเต้นอ่อน ก่อนที่เพื่อนช่วยกันปั๊มหัวใจจนชีพจรฟื้นกลับมา และเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณตี 1 วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ต่อมา สาวประเภทสองที่ถูกไฟดูดได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล และมีเพจแชร์ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กว่ามีร้านเหล้าดังเชียงใหม่ เกิดเหตุไฟดูดคนตายวันฮาโลวีนแต่ปิดข่าวเงียบกริบ แบบนี้ก็ได้เหรอ หลังจากนั้นได้มีคนมาคอมเมนต์และแชร์ต่อจำนวนมาก ทางตำรวจ สภ.ช้างเผือกและตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่จึงได้ลงตรวจที่เกิดเหตุและตรวจสอบเสาไฟ สายและระบบไฟต่างๆ ภายในลานจอดรถเพื่อหาสาเหตุ
จากการสอบถาม นายพงศธร ยศชัยปกรณ์ หรือ ฝุ่น อายุ 28 ปี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนผู้ตายและอยู่ในวันเกิดเหตุ เล่าว่า คืนฮาโลวีนตนและเพื่อนประมาณ 5-6 คนได้มาเที่ยวที่สถานบันเทิงจนร้านปิด จะกลับบ้านเดินมาลานจอดรถเพื่อจะมาเอารถที่จอดไว้ ระหว่างที่รอเพื่อนไปเอารถนั้นก็ได้เดินพูดคุยกันหยอกล้อกับเพื่อนในกลุ่มและเพื่อนชื่อนายวิชานัน อายุ 26 ปี นั่งลง และเสียหลักล้มถูกไฟดูดซึ่งเป็นช่วงเวลาแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ซึ่งตอนเห็นเพื่อนล้มก็ไปจับตัวขึ้นมาแต่เมื่อไปจับตัวกลับถูกไฟดูด เห็นเพื่อนนอนชักตาตั้งจึงเรียกเพื่อนอีกคนให้มาช่วยดึงแต่ก็ถูกไฟดูดอีก ตนไม่รู้จะทำอย่างไรจึงได้ใช้ถุงพลาสติกของทางร้านสวมมือแล้วลากเพื่อนออกมาซึ่งขณะนั้นยอมรับว่ารู้สึกตกใจมากไม่คิดว่าไฟจะดูด
ขณะที่นายพีระ ศัลกวิเศษ อายุ 50 ปี เจ้าของลานจอดรถ กล่าวว่า โคมไฟที่อยู่หัวเสาลานจอดรถใช้มานานแล้วและติดไว้เพื่อส่องสว่าง ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน หลังเกิดเหตุทางร้านได้สับคัตเอาต์ลงและเร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บแต่น้องเขาไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลซึ่งทางร้านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เหตุนี้เป็นเหตุเกิดที่ลานจอดรถ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงตามที่เป็นข่าว หลังเกิดเหตุได้ตามไปดูแลที่โรงพยาบาลและออกค่ารักษาพยาบาลให้หมด กระทั่งน้องเสียชีวิตก็ออกค่าใช้จ่ายเป็นค่าน้ำมันให้ทางครอบครัวนำศพไปประกอบพิธีที่บ้านเกิดในจ.สุโขทัย
ขณะเดียวกัน เจ้าของลานจอดรถ ได้โทรศัพท์ให้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามญาติของคนตาย ซึ่งญาติบอกว่าเบื้องต้นทางเจ้าของลานจอดรถได้ดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ได้ทอดทิ้ง เมื่อถามว่าติดใจการเสียชีวิตของหลานชายหรือไม่ ญาติบอกว่าตรงนี้ก็ยังมีนิดหน่อยแต่ไม่ขอพูดอะไรมากเพราะยังอยู่ในอาการเศร้าเสียใจอยู่
ด้าน พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก เปิดเผยว่า ตำรวจกำลังตรวจสอบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีความผิดฐานประมาทฯหรือไม่ โดยเฉพาะผู้ดูแลสถานที่มีการป้องกันหรือเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ถึงแก่ชีวิตมากน้อยเพียงพอหรือไม่ อย่างไรก็ตามต้องรอผลพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และผู้เชี่ยวชาญก่อน ถ้าหากพบว่ามีผู้กระทำผิดหรือกระทำโดยประมาท จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป