รักษาการ “สมคิด” สันนิบาตแจงข่าวลือ! เหตุเกิดโรคเลื่อนการโหวตเก้าอี้ปธ.ฯ รักษาการฯ ปธ.สันนิบาต จ.เชียงใหม่ แจงข้อเท็จจริงเหตุ เลื่อนนัดการประชุมใหญ่วาระการโหวตตำแหน่งประธานสันนิบาตฯ ที่ ทต.ท่าศาลา (11 มิ.ย. 2564) ด้วยเหตุผล 2 ประการหลัก เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด สื่อนำเสนอข่าวคลาดเคลื่อน
เมื่อเวลา 09.00 น.วันเสาร์ที่ 12 มิ.ย. 2564 นายสมคิด เลิศเกียรติดำรงค์ อดีตนายก ทต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ รักษาการในตำแหน่งประธานสันติบาตเทศบาล จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสภา ทต.หนองป่าครั่ง ได้ออกมาชี้แจงแถลงถึง เรื่องการประโคมข่าว การเลื่อนนัดการประชุมสันนิบาตฯแบบกระทันหันนั้น โดยมีการนำเสนอข่าวคลาดเคลื่อนในแง่ของการเกิดความเข้าใจผิดกับสมาชิกสันนิบาต จ.เชียงใหม่ อยู่หลายประเด็นตามที่เชียงใหม่นิวส์ออนไลน์ และสำนักข่าวบางแห่งได้นำเสนอข่าวออกไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าว ได้เข้าพบรักษาการในตำแหน่งประธานสันนิบาตฯ นายสมคิด เลิศเกียรติดำรงค์ เพื่อขอรับคำชี้แจงกรณี การเลื่อนนัดการประชุมอย่างกระทันหันนั้น นายสมคิด กล่าวว่า ตามที่เป็นข่าวในสื่อออนไลน์ออกไปในวงกว้างนั้นบางสาเหตุอาจเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของสื่อ ตามข้อเท็จจริงตนเองในฐานะรักษาการฯ ขอชี้แจงใน 2 ประเด็นหลักใหญ่ที่ทำให้มีการเลื่อนนัดการประชุมในวาระสำคัญคือการโหวตตำแหน่งประธานสันนิบาตเทศบาล จ.เชียงใหม่ คนต่อไปว่า” ประเด็นแรกคือมีความจำเป็นอย่างยิ่งคือ เนื่องจากสมาชิก ที่เป็นนายกเทศมนตรีฯ ในหลายๆ แห่ง (อปท.จ.เชียงใหม่) เพิ่งที่จะเข้าดำรงตำแหน่งเพราะ กกต. เพิ่งให้การรับรอง บางท่านบางคนอาจยังไม่เข้าทำงานและยังไม่แถลงนโยบายต่อสภาฯ จะทำให้เสียโอกาสในการโหวต ที่สำคัญต้องการเปิดโอกาสให้ทุกคนที่เป็นสมาชิกฯ (นายกเทศมนตรีฯ) ได้รับสิทธิในการโหวตเสมอภาคกัน
ส่วนสาเหตุสำคัญอีกอย่างคือ เรื่องของสภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ทุกๆ ฝ่ายมีความกังวลว่าอาจมีการแพร่ระบาดกันอีกเป็นระลอกๆ นั้น ตามระเบียบของ ศบค. คือไม่ให้มีการจัดประชุมหรือชุมนุมกันเกิน 50 คน เพราะเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อาจจะมีคลัสเตอร์ ใหม่เกิดขึ้นซึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่ ไม่มีอำนาจอื่นใดมาแทรกแซงการทำงาน นอกเหนือจาก 2 เหตุผลนึ้เป็นหลักสำคัญ ขอย้ำว่า 2 ประเด็นหลักนี้คือเหตุผลของการเลื่อน ที่เป็นผลพลอยได้และความโชคดีของชาวเชียงใหม่และนายกเทศมนตรีฯ ที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งใหม่ๆ กันเข้ามา จะได้มีโอกาสเข้ามาร่วมโหวตกันอย่างพร้อมเพรียงและเสมอภาค”สำหรับกรณีที่มีข่าวลือและแพร่สะพัดออกไปในเรื่องของการแจกกล้วยนั้น ผมเองถือว่าเป็นเรื่องนอกประเด็นของวาระการประชุมฯที่จะเกิดขึ้น
กรณีของ “การแจกกล้วย” ตามที่สื่อได้นำเสนอออกไป มองได้หลายแง่ถ้าถามความคิดเห็นส่วนตัวผมเองแล้ว ผมว่าไม่ควรมีเกิดขึ้นเพราะผมเชื่อในวุฒิภาวะของผู้นำแต่ละคนที่ประชาชนเลือกกันเข้ามา คงไม่หวังอามิสสินจ้างหรือเงินรางวัลใดๆ รวมถึงเสน่หา การเลือกตั้งการโหวตในตำแหน่งประธานสันนิบาตเทศบาลฯ มีเพียงตำแหน่งนายกเทศมนตรีฯเท่านั้น ที่เชียงใหม่มีอยู่ 120 แห่งผมเชื่อว่าทุกคนมีวุฒิภาวะของการเป็นผู้นำ รู้จักแยกแยะสิ่งไหนควรไม่ควรทำ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละคนแต่ละท่าน ผมเองคงไม่ล้วงลูกไปถึงเรื่องนั้น เพราะกฤษฎีกาของการเลือกประธานสันนิบาตฯ ที่ผ่านมาไม่มีประเพณีปฏิบัติในเรื่องดังกล่าว และไม่อยากให้มีเกิดขึ้นที่เชียงใหม่ ไม่อยากให้มีตัวอย่างแบบนี้เกิดขึ้น ถึงแม้จะไม่มีข้อกฎหมายห้ามหรือบทลงโทษในการกระทำในเรื่องนี้ก็ตาม มันเป็นเรื่องของตัวบุคคล
ผมเชื่อมั่นในศักดิ์ศรีและศักยภาพของผู้นำท้องถิ่นแต่ละคนว่ามีวุฒิภาวะของการเป็นผู้นำรู้จักแยกแยะเป็นตัวของตัวเอง ในการตัดสินใจโหวตตำแหน่งประธานสันนิบาต จ.เชียงใหม่ โดยจะต้องมีการเรียกประชุมต่อไป ในไม่ช้าขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความพร้อมตามในประเด็นสำคัญ 2 ประการที่ได้กล่าวไปแล้วในเบื้องต้น