วันที่ 22 มีนาคม 2564เวลา 14.00 น. นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นางสาววรรณศรี ปัญญาประชุม ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรวิชญ์ จันทร์ฉาย คณบดีวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ อาจารย์ ดร.ดนัยธัญ พงษ์พัชราธรเทพ รองคณบดีฝ่ายบริการสังคมและวิจัย วิทยาลัยศิลปะ สื่อและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ด้านการศึกษา การพัฒนาบุคลากรและชุมชนในเขตพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีคณะผู้บริหาร และหัวหน้าส่วนราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมพิธีลงนามดังกล่าว ณ ห้องประชุมสภา ชั้น 2 อาคารสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่
นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงฯ วันนี้เกิดขึ้นตามนโยบายนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้แถลงนโยบายต่อสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ด้านการศึกษา มีสาระสำคัญที่เกี่ยวกับโครงการ “เด็กไทย 4 ภาษา” ไทย อังกฤษ จีน คอมพิวเตอร์ โดยจะส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาแก่เด็กและเยาวชน ให้มีทักษะและมีความรู้ในการใช้ภาษาอย่างมีประสิทธิภาพในการใช้ภาษา
การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือใน วันที่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และวิทยาลัยศิลปะ สื่อและเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่จะพัฒนานักเรียน บุคลากรและประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ให้มีทักษะชีวิตและสามารถประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ในการจัดกิจกรรมและการเรียนการสอน ศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง การผลิตสื่อดิจิทัลเพื่อการเรียน การสอน การประกอบอาชีพตลอดจนความร่วมมือด้านอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนชาวเชียงใหม่ จะตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและชุมชนในอนาคต
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรวิชญ์ จันทร์ฉาย คณบดีวิทยาลัยศิลปะ สื่อและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า วัตถุประสงค์การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลให้กับนักเรียน บุคลากร และประชาชนในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้หลักสูตร “ดิจิทัลเพื่อการพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืน” ของวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เช่น ทักษะการใช้ดิจิทัลเพื่อการขายและการตลาดออนไลน์
ทักษะการใช้ดิจิทัลเพื่อการออกแบบ การผลิตสื่อดิจิทัล ทักษะการประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่นบนมือถือเพื่อการเก็บข้อมูลและประมวลผลสำหรับงานพัฒนาชมชน ท้องถิ่นทักษะการใช้ดิจิทัล เพื่อการสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มเพื่อยกระดับการท่องเที่ยวชุมชน และวิสาหกิจชุมชน เป็นต้นพร้อมทั้งส่งเสริมสนับสนุนความเชื่อมโยงกิจกรรมการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่กับต่างประเทศ
ในการลงนามความร่วมมือครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายยังได้แถลงข่าวการจัดกิจกรรมร่วมกับแผนงานคนไทย 4.0 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เพื่อจัดการฝึกอบรมการพัฒนามัคคุเทศก์ภาษาต่างประเทศของชมรมมัคคุเทศก์จังหวัดเชียงใหม่สู่การเป็นนักขายออนไลน์ตลาดต่างประเทศ
โดย อ.ดร.ดนัยธัญ พงษ์พัชราธรเทพ หัวหน้าโครงการวิจัยภายใต้แผนงานคนไทย4.0 กล่าวว่า มัคคุเทศก์เป็นหนึ่งในอาชีพสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 การมองหาอาเชีพอื่นๆเพื่อทดแทนการขาดหายไปของนักท่องเที่ยวต่างชาติจึงเป็นสิ่งจำเป็น การพัฒนาไปสู่การเป็นนักขายออนไลน์ทั้งในรูปแบบการเป็น Influencer และการขายสินค้าผ่านช่องทาง Live Streaming จึงเป็นนหนึ่งในสายอาชีพนักขายแนวใหม่ที่ตรงกับความต้องการของตลาด และเหมาะสมสำหรับมัคคุเทศก์ที่มีจุดแข็งเดิมด้านทักษะภาษาต่างประเทศ
ทางวิทยาลัยฯ อบจ.เชียงใหม่ แผนงานคนไทย4.0 สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ชมรมมัคคุเทศก์จังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ จึงร่วมมือกันจัดกิจกรรมการฝึกอบรม “มัคคุเทศก์สู่นักขายออนไลน์” จำนวน 3 รุ่นๆละ 40 คน ในระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน โดยทางวิทยาลัยศิลปะ สื่อและเทคโนโลยี พร้อมที่จะร่วมกับ อบจ.เชียงใหม่ และภาคส่วนต่างๆเพื่อสนับสนุนหลักสูตรเพื่อสร้างทักษะใหม่ให้กับชาวเชียงใหม่ให้มีความพร้อมก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจฐานดิจิทัลต่อไป