Submitted on Thu, 2021-08-26 20:15
ชาวเชียงใหม่และนักวิชาการร่วมยืนร้องเพลง “มาร์ชพิทักษ์สันติราษฎร์” หน้า สภ.เมืองเชียงใหม่ ขอร้องให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชน
26 ส.ค. 2564 วันนี้ เวลา 16.30 น. ที่บริเวณด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อาทิ อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์, สมชาย ปรีชาศิลปกุล, นัทมน คงเจริญ, ดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล และชาวเชียงใหม่จำนวนหนึ่ง ร่วมกันยืนร้องเพลง “มาร์ชพิทักษ์สันติราษฎร์” ขณะที่ตำรวจได้มีการนำแผงเหล็กมากั้นล้อมรอบทางเข้าบริเวณหน้าสถานีไว้ ทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าไปยืนร้องเพลงหน้ารูปปั้นตำรวจบริเวณหน้าสถานีได้
ทั้งนี้ภายในงานมีการอ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้องค์กรตำรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ของตนเองภายใต้กรอบของกฎหมาย ด้วยวิจารณญาณอันเหมาะสม เคารพถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ โดย “ประชาชนมิใช่ศัตรูของเจ้าหน้าที่ตำรวจ” ดังนั้นการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องให้ความเคารพต่อประชาชนในฐานะของผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย
อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์
ต่อคำถามที่ว่าความรุนแรงที่ตำรวจกระทำต่อประชาชนและผู้ชุมนุมในตอนนี้จะนำไปสู่จุดเปลี่ยนในทางประวัติศาสตร์อย่างไรนั้น อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ กล่าวว่า สภาวะความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องนี้ ตนคิดว่ามันไม่หยุดลงง่ายๆ เพียงแต่ว่าความไม่พอใจ ความอึดอัด ความเจ็บปวดของประชาชนทวีมากขึ้น ดังนั้นจุดที่เป็นจุดประทุจะคืออะไร ตนก็ยังคาดเดาไม่ได้ แต่เชื่อว่าความรุนแรงที่เริ่มเดินไปเรื่อยๆ เพาะตัวไปเรื่อยๆ ท้ายที่สุดแล้วจะนำไปสู่จุดประทุแน่ๆ แต่จุดประทุอันนี้อาจจะเป็นบางเรื่องบางตอน ซึ่งจุดประทุนั้นจะนำไปสู่อะไร ตนคิดว่าอย่างน้อยมันทำให้สังคมไทยทั้งหมดตระหนักว่า เราอยู่ในจุดที่ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว แน่นอนมันคงจะไม่สามารถเปลี่ยนไปตามความคาดหวังของพวกเราทั้งหมดได้ แต่มันชี้ให้เห็นเลยว่า เราไม่มีทางที่จะกลับไปเหมือนเดิมอีกแล้ว
ส่วนรายละเอียดแถลงการณ์ มีดังนี้
แถลงการณ์ ตำรวจคือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ มิใช่ไพร่ทาสของเจ้านายหรือรัฐบาล
ในฐานะที่เป็นหน่วยงานซึ่งถือว่าเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม องค์กรตำรวจจึงมีความสำคัญอย่างมากทั้งในด้านของการรักษาความสงบเรียบร้อยและการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน หากบุคลากรในองค์กรตำรวจได้ทำหน้าที่ให้เป็นไปตามขอบเขตที่กฎหมายได้ให้อำนาจไว้ และด้วยอุดมการณ์ในการเป็น “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ก็จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สังคมสามารถดำเนินไปได้อย่างปกติสุข ตรงกันข้าม หากตำรวจมิได้มุ่งทำหน้าที่โดยคำนึงถึงอำนาจตามกฎหมาย ละทิ้งอุดมคติและประชาชน ก็จะนำมาซึ่งสถานการณ์อันเลวร้ายต่อประชาชนและสังคมเป็นอย่างมาก
นับตั้งแต่การเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา สังคมได้ประจักษ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมุ่งเน้นการใช้กำลังและอาวุธในการปราบปรามประชาชนเป็นด้านหลักมาอย่างต่อเนื่อง บ่อยครั้งเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นการใช้ความรุนแรงที่เกินสมควรและนำมาซึ่งการบาดเจ็บพิการต่อชีวิตประชาชน รวมทั้งการใช้อำนาจในการดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาก็มิได้เป็นไปตามขอบเขตของกฎหมาย นับตั้งแต่การตั้งข้อกล่าวหา การเข้าจับกุม การสอบสวน หรือการพิจารณาประกันตัว ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดการตั้งคำถามอย่างกว้างขวาง
พวกเราขอยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินไปภายใต้กรอบของกฎหมาย และด้วยการใช้อำนาจตามกฎหมายที่ต้องประกอบไปด้วยวิจารณญาณอันเหมาะสม เคารพถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ประชาชนมิใช่ศัตรูของเจ้าหน้าที่ตำรวจ การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องดำเนินไปตามหลักวิชาชีพและให้ความเคารพต่อประชาชนในฐานะของผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย
เจ้าหน้าที่ตำรวจมิใช่ไพร่หรือทาสของเจ้านาย ผู้บังคับบัญชา รัฐบาล หรือผู้มีอำนาจทางการเมืองใด ๆ หากแต่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับเงินเดือนจากภาษีประชาชนจึงควรต้องทำงานเพื่อ “รับใช้ประชาชน” การมุ่งปฏิบัติหน้าที่เพื่อตอบสนองกับคำสั่งของนาย นโยบายของรัฐ หรืออำนาจเหนืออื่น โดยมิได้ตระหนักถึงขอบเขตของกฎหมายและสิทธิเสรีภาพของประชาชน รังแต่จะเป็นการย่ำยีเกียรติและศักดิ์ศรีขององค์กรตำรวจ ที่ผ่านมาเป็นที่ชัดเจนว่าปัจจัยสำคัญอันนำมาซึ่งสถานะอันต่ำตมของตำรวจทั้งในอดีตและในห้วงเวลาปัจจุบันก็ด้วยน้ำมือของคนในองค์กรตำรวจเองเป็นหลัก มากกว่าสีที่ถูกสาดใส่ป้ายชื่อหรือถ้อยคำต่อว่าต่อขานจากประชาชนที่ถูกย่ำยี
พวกเรามาร่วมกัน ณ ที่นี้ ต่อหน้าอนุสาวรีย์ตำรวจด้วยความหวังว่าจะส่งเสียงของเราไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนในสังคมไทย เฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจในระดับปฏิบัติการซึ่งควรต้องตระหนักว่าการทำงานแบบถวายหัวให้กับเจ้านาย ผู้บังคับบัญชา หรือรัฐบาล มิใช่อุดมคติแห่งองค์กรตำรวจแต่อย่างใด การหันกลับมายึดมั่นในหลักการแห่งวิชาชีพที่มุ่งหมายพิทักษ์สันติราษฎร์และรับใช้ประชาชนต่างหากที่เป็นเป้าหมายอันแท้จริงขององค์กรแห่งนี้ และจะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเชิดหน้าแสดงตนได้อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีอย่างแท้จริง
เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ
ภาพบรรยากาศเพิ่มเติม :
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
2021-08-26 20:15
2021-07-27 07:57
ข่าวรอบวัน
2021-08-27 02:07
2021-08-27 01:26
2021-08-27 00:09
2021-08-26 22:42
2021-08-26 21:30
2021-08-26 20:15
2021-08-26 17:42
2021-08-26 17:19
ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai
ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai
LINE ไอดี = @prachatai