ชูป้าย ‘คืนเพื่อนเรามา’ หน้าทัณฑสถานหญิง เชียงใหม่ ศูนย์ทนายเผย ‘พรพิมล’ วืดประกันรอบ 2 แม้ยอมรับเงื่อนไข
เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ทัณฑสถานหญิง จ.เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ‘พรรควิฬาร์’ พร้อมด้วยประลาชนกว่า 10 คน ได้ร่วมทำกิจกรรมมูฟเมนต์ ปล่อยเพื่อนเรา ด้วยการยืนชูป้าย ระบุข้อความ “ปล่อยเพื่อนเรา” “คืนเพื่อนเรามา” ที่หน้าฑัณฑสถานหญิง เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัว พรพิมล (สงวนนามสกุล) แม่ค้าออนไลน์ ผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก
ด้าน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า
วันที่ 9 เม.ย. 64 ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ทีมทนายความยื่นขอประกันตัว “พรพิมล” (สงวนนามสกุล) แม่ค้าขายของออนไลน์ อายุ 22 ปี ที่ถูกจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ก่อนถูกฝากขังตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 64 โดยศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เป็นเวลา 9 วันแล้ว ก่อนศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอประกันตัวเป็นครั้งที่สอง ระบุไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม
เวลาประมาณ 10.00 น. ทีมทนายความได้เข้าพบพรพิมลที่ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ เพื่อจัดทำคำร้องประกอบการขอปล่อยตัวชั่วคราวครั้งที่ 2 พรพิมลดูสดใสขึ้นบ้างแล้วเล็กน้อย วันนี้ระหว่างการพบทนายความเธอไม่ได้ร้องไห้อีก สำหรับสภาพความเป็นอยู่เธอเล่าว่าหลังจากที่มีเรื่องราวออกไปว่าเธอถูกคุมขังอยู่ในห้องขังเดี่ยวที่มองไม่เห็นแสงจากภายนอก เธอได้ถูกย้ายไปอยู่ห้องคุมขังที่มีขนาดกว้างขึ้นและมีแสงส่องถึง มองเห็นบรรยากาศนอกห้องขังได้
ก่อนการเข้าเยี่ยมของทนายความ พรพิมลได้ถูกพนักงานสอบสวนยื่นขอฝากขังครั้งที่ 2 ต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยเป็นการขอฝากขังก่อนครบกำหนดระยะเวลา 12 วัน เนื่องจากจะเป็นวันหยุดราชการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังเธอต่ออีกครั้งเป็นระยะเวลา 12 วัน
ทนายความได้อธิบายว่าวันนี้จะมีการยื่นประกันตัวเธอครั้งที่ 2 โดยมีคำร้องประกอบการขอปล่อยตัวชั่วคราว ที่จะนำเสนอข้อเท็จจริงยืนยันต่อศาลว่าผู้ต้องหานั้นไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนีแต่อย่างใด และได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มาตั้งแต่ต้นในขั้นตอนการสอบสวนต่างๆ ส่วนข้อกล่าวหาในคดีนี้ ผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด ทั้งผู้ต้องหายังไม่เคยยุ่งเกี่ยวหรือเข้าร่วมกิจกรรมการชุมนุมทางการเมือง หรือกระทำความผิดอาญาอื่นๆ มาก่อนแต่อย่างใด
นอกจากนี้แล้วผู้ต้องหา แม้จะอายุ 22 ปี แต่ก็มีอาชีพค้าขายเพื่อเลี้ยงดูตนเอง ทั้งยังต้องรับผิดชอบต่อบุคคลอื่นในครอบครัว ซึ่งไม่มีใครสามารถกระทำการแทนได้ และการค้าขายของนั้นก็เพื่อหารายได้เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเช่าที่อยู่อาศัย และค่าใช้จ่ายอื่นๆ หากการค้าขายของผู้ต้องหาต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากการถูกควบคุมตัวในคดีนี้ จะทำให้ขาดรายได้อย่างหนัก ซึ่งจะส่งผลเสียต่อผู้ต้องหาอย่างมาก
ตอนท้ายของคำร้องประกอบการขอปล่อยตัวชั่วคราว ที่ขอวางเงินสดจำนวน 300,000 บาท เป็นหลักประกันนั้น ยังระบุยืนยันว่าหากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว จะไม่กล่าวพาดพิงถึงสถาบัน และจะไม่เข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ที่อาจเสื่อมเสียต่อสถาบัน โดยผู้ต้องหายินยอมที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวทุกประการ พรพิมลได้ลงชื่อในคำร้องดังกล่าวด้วยตนเองเพื่อให้ทนายความนำมายื่นต่อศาล
ต่อมาเวลา 14.00 น. ทีมทนายความและอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวพรพิมล ด้วยเงินสดจำนวน 300,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ พร้อมยื่นคำร้องประกอบการปล่อยตัวชั่วคราวดังกล่าว เพื่อให้ศาลจังหวัดเชียงใหม่พิจารณาประกอบ
จนกระทั่งเวลา 15.33 น. ศาลจังหวัดเชียงใหม่มีคำสั่งยกคำร้องขอประกันตัวพรพิมล โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ยกคำร้อง
ทั้งนี้ ในการยื่นประกันตัวครั้งที่ 1 ศาลระบุเหตุที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวเอาไว้ว่า “พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาประกอบกับข้อความที่ผู้ต้องหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว อาจจะกระทำในลักษณะเดียวกันอีก เกรงว่าจะหลบหนี ยากแก่การติดตามตัว จึงให้ยกคำร้อง”