สดจากสนามข่าว – ชาวบ้านที่ผ่านไปมาย่านโพธาราม ซอย 12 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่างเห็นรถเก๋งมิตซูบิชิ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดทิ้งอยู่ริมถนนมาหลายวันแล้วแต่ก็ไม่มีใครนึกสงสัยว่าจะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น กระทั่งได้กลิ่นเหม็นโชยออกมาอย่างผิดปกติ
ย้อนไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2564 ร.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เขื่อนแก้ว รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุพบ ผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถ เหตุเกิดบริเวณริมถนนย่านโพธาราม ซอย 12 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจ สภ.ช้างเผือก เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์เวร
ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งมิตซูบิชิ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่ริมถนน สภาพรถล็อกประตูทั้งสี่บาน นอกจากนี้ตามช่องประตู มีการใช้สก๊อตเทปติดปิดอย่างแน่นหนา จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงงัดประตูรถ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที แต่ไม่สามารถเปิดได้ จึงตัดสินใจทุบกระจกรถด้านหลัง
พลันที่กระจกแตกออกเจ้าหน้าที่ถึงกับผงะจากกลิ่นเหม็นของซากศพที่พุ่งสวนออกมาจากภายในรถ
จากการตรวจสอบภายในรถพบศพนาย วศุภัทร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี และศพ น.ส.เบญจพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ โดยมีผ้าห่มและเครื่องนอนคลุมไว้ มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าตามร่างกายประมาณ 10 แผล คาดว่าทั้งคู่เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 วัน
นอกจากนี้ในรถยังพบกระป๋องทินเนอร์ และอุปกรณ์รมควันวางอยู่ และยังพบมีด คัตเตอร์พร้อมมีดเดินป่าตกอยู่ในรถ ซึ่งคาดว่าฝ่ายชายน่าจะเป็นคนลงมือทำร้ายฝ่ายหญิง แล้วฆ่าตัวตายตาม
ของกลางในรถ
จากการสอบถามทางพยานโดยรอบที่เกิดเหตุทราบว่า ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ในหอพักใกล้กับจุดเกิดเหตุ โดยก่อนหน้านี้ได้มีคนที่พักอาศัยที่หอพักขับรถผ่านรถยนต์ที่พบศพ แล้วได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากรถ จึงได้แจ้งคนดูแลหอพัก และทราบว่าเจ้าของรถคันดังกล่าวอาศัยอยู่ห้องพักชั้น 3 จึงได้ขึ้นไปเคาะประตูเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ ตรวจสอบพบว่าประตูห้องไม่ได้ล็อก จึงเปิดเข้าไปดูก็พบว่าฝ่ายชายเขียนข้อความไว้บนกระจกในห้อง ระบุว่า ฆ่าเพราะรัก โดยมีใจความลักษณะลาตายไว้ จากนั้นคนดูแลหอพักจึงมาลองตรวจสอบที่รถคันดังกล่าวก็พบศพทั้งคู่
ด้านพี่สาวของนายวศุภัทร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อกับน้องชายหลายวันแล้ว แต่ไม่มีคนรับสาย และได้พยายามให้เพื่อนๆ ของน้องชายโทร.หาก็พบว่าโทร.ติด แต่ไม่มีคนรับเช่นกัน
เขียนระบายฆ่าเพราะรัก
จนกระทั่งมาทราบเรื่องในวันนี้ ที่ผ่านมาตนพอทราบว่าน้องชายกับแฟนสาวมักมีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้ง และแทบจะทุกวัน ซึ่งตนก็ทราบดีว่านิสัยของน้องชายนั้นเป็นคนขี้หึงหวง และพักหลังฝ่ายหญิงก็ไม่ได้ทำงาน ตนก็มักจะได้ยินน้องชายบ่นให้ฟังอยู่เป็นประจำว่าเมื่อทะเลาะกัน แฟนสาวมักจะหนีกลับไปอยู่บ้านที่ฝาง แล้วน้องชายของตนก็จะไปตามกลับมา
พี่สาวฝ่ายชายยังระบุอีกว่า ทั้งคู่คบกันมาได้ประมาณปีกว่า ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนน้องชายยังไม่ได้คบกับแฟนสาวก็อาศัยอยู่กับตน ต่อมาจึงย้ายมาอยู่หอพักแห่งนี้ได้ประมาณ 3-4 เดือน เมื่อช่วงประมาณต้นปีที่ผ่านมา น้องชายมักจะโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ลักษณะจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่เพื่อนๆ ก็คอยเตือนให้น้องชายเลิกกับแฟนคนนี้ เพราะกลัวจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้น
ส่งศพชันสูตร
ต่อมา พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รอง.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบการเสียชีวิตของฝ่ายชายในเบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุการตายมาจากการรมควัน ส่วนฝ่ายหญิงพบว่ามีร่องรอยบาดแผลที่เกิดจากอาวุธมีด และจากการตรวจสอบห้องพักของผู้เสียชีวิตพบจดหมายที่ทางผู้เสียชีวิตเขียนทิ้งไว้ แต่ไม่พบร่องรอยของการต่อสู้แต่อย่างใด
ส่วนข้าวของเช่น ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน นั้นคาดว่าน่าจะขนมาจากบนห้องที่อาศัยอยู่ ซึ่งคาดว่าฝ่ายชายน่าจะลงมือก่อเหตุฆ่าฝ่ายหญิงก่อน จากนั้นก็ได้ฆ่าตัวตายตาม เนื่องจากภายในจดหมายที่เขียนทิ้งไว้ก็มีเนื้อความสารภาพว่าก่อเหตุไปเพราะรัก ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของความหึงหวงกันระหว่างทั้งคู่ และได้จบชีวิตคู่ด้วยการที่ฝ่ายชายฆ่าฝ่ายหญิง แล้วจึงรมควันตัวเองเพื่อฆ่าตัวตายภายในรถ พ.ต.อ.สุคนธ์กล่าวสรุป
เพราะอะไรเรื่องราวของความรัก ถึงจบลงด้วยความสยอง
กฤษณะ เชิญธงไชย
เรื่อง/ภาพ