28 ต.ค.2565 – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. 3 คน ในจังหวัดเชียงใหม่ว่า พรรคขอเสนอตัวเพื่ออาสาอีกครั้งที่จะเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับชาวเชียงใหม่ ซึ่งผู้แทนราษฎรคราวที่แล้วมี 9 เขต แต่เที่ยวหน้า ก็น่าจะขยายไปเป็น 11 เขต แต่เนื่องจากเขตยังไม่นิ่งว่า 11 เขตนั้นจะประกอบด้วยอำเภอไหนอยู่กับอำเภอไหนบ้าง สำหรับประชาธิปัตย์ก็จะถือโอกาสทยอยเปิดตัวผู้สมัคร คงจะไม่เปิดตัวทีเดียวทั้งหมด เพราะต้องรอให้เขตนิ่งก่อน สำหรับวันนี้ถือโอกาสเปิดตัวอย่างน้อย 3 ท่าน ดังนี้
1. นายนิคม เชาว์กิตติโสภณ อดีตวุฒิสมาชิก อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ 2. ว่าที่ร้อยโทวิศธร เถาตระกูล หรือ ทนายเต้ย คนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. เชียงใหม่ ปัจจุบันเป็นผู้ช่วย ส.ส. ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม 3. น.ส.จิตพลอย จิตจักรวาลทอง นักธุรกิจรุ่นใหม่ เลขานุการสมาคมวัฒนธรรม และเศรษฐกิจไทย – เมียนมา สาขาเชียงใหม่ และเป็นคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
เมื่อถามว่า จากการที่พรรคแกนนำรัฐบาลมีการเปิดตัวผู้สมัครภาคใต้ สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ได้เตรียมการเรื่องตัวผู้สมัครเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคกล่าวว่า เรียกว่าเกือบ 100% แล้ว รอระยะเวลาที่จะทยอยเปิดตัวเท่านั้น ที่ผ่านมาก็ได้เปิดตัวผู้สมัครไปจำนวนหนึ่งแล้ว ที่จังหวัดสงขลา โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ผู้สมัครหน้าใหม่ทั้งหมดที่เข้ามาร่วมงานกับประชาธิปัตย์ 30 ที่ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ได้เปิดตัวผู้สมัครที่จังหวัดกระบี่ และถัดจากนี้ วันที่ 12 พ.ย.นี้ จะได้มีการเปิดตัวผู้สมัครที่จังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้งจะทยอยไปเปิดที่จังหวัดพัทลุง จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งจังหวัดอื่นๆ อีกอย่างจังหวัดภูเก็ต แต่ถ้าถามว่าสำหรับผู้สมัครภาคใต้พร้อมหรือไม่นั้น ก็ต้องบอกว่าพร้อมร้อยเปอร์เซนต์แล้วจนถึงนาทีนี้
ถามว่าได้มีการพูดคุยกับบุตรสาวของนายจุมพล กาญจนะ หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ได้คุยกันตกผลึกแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการเปิดตัว แต่ทั้งหมดนี้เราก็ไม่ทราบว่าสุดท้ายเขตจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหนอย่างไร เพราะการแบ่งเขตก็ต้องประกาศโดยกฎหมาย ซึ่งก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ ก็ต้องรอข้อเท็จจริงหน้างานอีกครั้งว่าสุดท้ายแล้วตำบลไหน อำเภอไหนจะไปบวกกับอำเภอไหน เป็นเขตอะไร แต่ถ้าเขตไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากที่เราคิดว่ามันจะเป็น วันนี้ทุกอย่างก็ลงตัวแล้วว่าใครจะลงเขตไหนอย่างไร
“เราได้ทำงานการเมืองในภาคใต้ต่อเนื่องอยู่แล้ว และในฐานะคนที่ลงไปสัมผัสพื้นที่จริง ลงไปสัมผัสพี่น้องประชาชนตัวจริง เราก็มั่นใจมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม้ว่าการเลือกตั้งคราวที่แล้วเราจะได้น้อยลงไปเยอะพอสมควร เพราะ 50 กว่าที่ เราก็ได้เพียง 22 แต่เที่ยวหน้า 58 เราก็มั่นใจว่าเราจะได้มากขึ้น และมากขึ้นกว่า 22 ไม่น้อยทีเดียว เหมือนกับที่ผมเคยพูดไป และท่านเลขาธิการพรรค ท่านนิพนธ์ ท่านเดชอิศม์ รองหัวหน้าพรรค ก็พูดตรงกันหมดว่าเราก็มั่นใจ เพราะเราคือผู้ที่ลงไปสัมผัสประชาชนตัวจริง รวมทั้งเรามีผู้แทนราษฎรปัจจุบันที่ทำพื้นที่สม่ำเสมอ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีพรรคการเมืองเข้าไปพัวพันกับเรื่องเงินบริจาคจนเกิดปัญหาขึ้น ส่วนเงินบริจาคของพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการตรวจสอบหรือไม่ว่าอาจจะมีการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า พรรคปฏิบัติตามกฎหมายอยู่แล้ว เพราะเราให้ความสำคัญกับเรื่องของการทำหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เหมือนที่เราได้ทำมาทุกยุคทุกสมัย ส่วนการตรวจสอบขั้นสุดท้าย หรือขั้นปลาย ก็เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ
สำหรับที่ถามถึงเรื่องผู้บริจาคของพรรคพลังประชารัฐที่เป็นชาวต่างชาตินั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่มีรายละเอียด และคิดว่าเมื่อถึงเวลา ถ้ามีการตรวจสอบ กกต. ก็คงเปิดโอกาสให้พรรคพลังประชารัฐได้ไปชี้แจง และการใช้ดุลพินิจพิจารณาว่าเป็นอย่างไรนั้น ก็คงเป็นหน้าที่เบื้องต้นของ กกต.
เมื่อถามถึงความพร้อมในการร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองอื่นในการเลือกตั้งครั้งต่อไปอย่างไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่พรรคการเมืองจะมาประกาศว่าใครจะจับมือกับใครอย่างไรนั้น สำหรับประชาธิปัตย์ยุคนี้ ตนพูดชัดเจนว่า เรารอคำตอบจากประชาชนก่อน เพราะประชาชนควรเป็นคนแรกที่ให้คำตอบว่า เขาต้องการให้ใครเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลและให้เสียงพรรคการเมืองแต่ละพรรคมามากน้อยแค่ไหนอย่างไร เพื่อที่จะนำไปสู่การนับหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาลในระบบรัฐสภา นั่นคือใครรวมเสียงข้างมากได้ คนนั้นก็เป็นรัฐบาล คนที่มีเสียงข้างน้อย หรือซีกเสียงข้างน้อยก็ต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาล เพราะฉะนั้นประชาธิปัตย์คงไม่ไปตอบก่อนที่ประชาชนจะตอบ
/////