คณะแพทยศาสตร์ มช. ปิดหอผู้ป่วยโควิด-19 intermediate cohort โรงพยาบาลสงฆ์ พร้อมคืนการบริการรพ.สงฆ์แห่งรพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ส่วน ICU โควิด-19 รพ.ประสาทมีแผนปิดเพิ่มสัปดาห์นี้ หลังสถานการณ์ผู้ป่วยโควิดเชียงใหม่ดีขึ้น
ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ)นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดเผยว่า “กว่า30 วัน ของการเปิดหอผู้ป่วยโควิด-19 ระดับปานกลาง หรือ Cohort Intermediate ward จำนวน 24 เตียง ณ ชั้น 3 โรงพยาบาลสงฆ์แห่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 24 เม.ย.-24 พ.ค. 2564 ที่ทางคณะแพทยศาสตร์ มช. ได้กราบเมตตาทางคณะสงฆ์ของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขออนุญาตในการใช้โรงพยาบาลสงฆ์แห่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ รองรับผู้ป่วยโควิด-19
ช่วงเดือนเมษายนมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดเชียงใหม่มากกว่า 300 คนต่อวัน ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมเป็นจำนวนมาก ทางคณะแพทยศาสตร์ ได้รับมอบหมายการบริการในส่วนของผู้ป่วยหนักที่ตึกนิมมานเหมินทร์และโรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่ ขณะเดียวกันผู้ป่วยระดับกลางมีจำนวนมากขึ้นเช่นกัน ทำให้ต้องปรับหอผู้ป่วย ณโรงพยาบาลสงฆ์แห่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ภายใน24ชั่วโมง ให้เป็นห้องความดันลบเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ระดับปานกลางนี้ขึ้นมา ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยในจังหวัดเชียงใหม่ลดน้อยลง ทำให้มีการกระจายของผู้ป่วยไปยังจุดอื่นๆได้เพียงพอ ขณะนี้มีผู้ป่วยที่รพ.สงฆ์ จำนวน 4 ราย กำลังกลับบ้าน 1 ราย และอีก 3 ราย จะทำการย้ายไปอยู่ในตำแหน่งอื่นเนื่องจากอาการดีขึ้น ยอดรวม 30 วัน จนถึงวันนี้(24 พ.ค.2564) มีผู้ป่วย covid ทั้งหมดที่ได้รับการรักษาจำนวน 76 ราย
จังหวัดเชียงใหม่ได้ผ่านพ้นวิกฤตมาได้เนื่องจากการเปิด Cohort Intermediate ward โรงพยาบาลสงฆ์ในครั้งนี้ ขณะนี้จำนวนผู้ป่วยของจังหวัดเชียงใหม่ได้ลดน้อยลงคณะแพทยศาสตร์ มช. จึงจะได้ทำการปิดหอผู้ป่วยโควิด-19 ระดับปานกลางนี้ และคืนการบริการโรงพยาบาลสงฆ์แห่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อให้เกิดการบริการที่เหมือนเดิม ภายในระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ต่อจากนี้ และในส่วนของ ICU รพ.ประสาท ตอนนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 เพียง 1 ราย กรณีที่ผู้ป่วยรายนี้หายดี จะมีแผนปิดหอผู้ป่วยICU ภายในสัปดาห์นี้เช่นกัน
ขอให้ทุกท่านมั่นใจในระบบต่างๆของโรงพยาบาลสงฆ์ ว่าเป็นไปตามมาตรฐานของการแพทย์ที่มีระบบการดูแลความสะอาด มีระบบการฆ่าเชื้อที่เป็นมาตรฐาน ซึ่งเป็นส่วนที่เราได้ทำอยู่แล้วทุกจุดของโรงพยาบาลในปัจจุบันตามมาตรฐานสากล
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในอนาคตกรณีสถานการณ์ผู้ป่วยของจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้นอีก โดยคณะแพทยศาสตร์ มช. ทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข หากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ก็จะใช้จุดอื่นของคณะในการให้บริการเช่น ตึกผู้ป่วยโรคปอด และจุดอื่นๆที่เราได้ให้บริการอยู่
ขอให้มั่นใจว่าสิ่งที่คณะแพทยศาสตร์ ได้ทำเป็นสิ่งที่มีประโยชน์สำหรับผู้ป่วยและเป็นสิ่งที่ทำให้เราผ่านวิกฤตของโควิด-19 ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ในท้ายที่สุดนี้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขอกราบขอบพระคุณ พระเดชพระคุณ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ และพระมหาเถรานุเถระ ที่เมตตาเห็นชอบถึงความจำเป็นในการปรับหอผู้ป่วย รพ.สงฆ์แห่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทย์ มช. เป็นหอผู้ป่วยระดับปานกลาง รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ในครั้งนี้ และขอขอบคุณ บุคลากร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทุกท่าน ที่มีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ภาระกิจในครั้งนี้ สำเร็จลุล่วงไปได้อย่างดียิ่ง