“นายกฯ” ปลื้ม “เชียงใหม่” ครองแชมป์ปลอดภัยสูดสุดในอาเซียน-อันดับที่ 32 ของโลก ขณะที่กรุงเทพฯ ติดอันดับ 7 ของอาเซียน
29 มกราคม 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ต่อกรณีการจัดอันดับของเว็บไซต์ Numbeo ซึ่งเป็นเว็บไซต์ด้านการวิจัยและเป็นฐานข้อมูลด้านคุณภาพชีวิตขนาดใหญ่ (ที่มา: Crime Index and Safety Index by City 2023 (numbeo.com) จ.เชียงใหม่ของไทย ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีความปลอดภัยสูงเป็นอันดับที่ 32 ของโลก และนับเป็นอันดับที่ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
ในส่วนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบการจัดอันดับดังกล่าว พร้อมทั้งขอบคุณไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่บูรณาการการทำงานร่วมกันสอดส่องดูแลด้านความปลอดภัยแก่ประชาชนอย่างเข้มงวด จริงจัง เห็นเป็นผลสำเร็จ สร้างความเชื่อมั่นและชื่อเสียงที่ดีแก่ประเทศไทย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า เว็บไซต์ Numbeo ได้จัดทำดัชนีอาชญากรรม (Crime Index) และดัชนีความปลอดภัย (Safety Index) ประจำปี 2566 (ครั้งที่ 1) จำนวน 416 เมืองทั่วโลก โดย จ.เชียงใหม่ มีคะแนนดัชนีอาชญากรรมอยู่ที่ 24.5 คะแนน ซึ่งอยู่ในระดับต่ำ (เกณฑ์ระหว่าง 20 – 40 คะแนน) และมีคะแนนดัชนีความปลอดภัยสูงอยู่ที่ 75.5 คะแนน ทำให้ จ.เชียงใหม่ ได้รับการจัดอันดับเป็นเมืองที่มีความปลอดภัย อันดับที่ 32 ของโลก และเป็นอันดับที่ 1 ของอาเซียน ขณะที่กรุงเทพมหานคร ได้อันดับที่ 170 ของโลก อันดับที่ 7 ของอาเซียน ด้วยคะแนนดัชนีอาชญากรรม 40.5 คะแนน และคะแนนดัชนีความปลอดภัย 59.5 คะแนน
ทั้งนี้ เมืองที่มีความปลอดภัยมากที่สุดในโลก คือ เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งมีคะแนนดัชนีอาชญากรรม 11.2 คะแนน และคะแนนดัชนีความปลอดภัย 88.8 คะแนน ขณะที่เมืองที่มีความปลอดภัยน้อยที่สุดในโลก คือ เมืองการากัส สาธารณรัฐเวเนซุเอลา ซึ่งมีคะแนนดัชนีอาชญากรรม 83.6 คะแนน และคะแนนดัชนีความปลอดภัย 16.4 คะแนน
“นายกรัฐมนตรียินดีเป็นอย่างยิ่งที่หลายเมือง/จังหวัดของไทย ได้รับการจัดอันดับให้มีความปลอดภัยสูง สะท้อนถึงความจริงจัง และความสามารถในการบริหารจัดการ ดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยของรัฐบาล ซึ่งมุ่งมั่นปราบปรามและขจัดอาชญากรรมที่ส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างจริงจัง เด็ดขาด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนชาวไทย ตลอดจนเป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางมายังประเทศไทย” นายอนุชาฯ กล่าว