เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เชียงใหม่ – นอภ.เมืองเชียงใหม่ เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบความเดือดร้อนของกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมากในตำบลป่าแดด กรณีกู้เงิน ธ.ก.ส. ซื้อบ้านแต่ผู้รับเหมากลับสร้างไม่เสร็จ ซึ่งส่อพบความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งนายหน้าซื้อขายที่เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านและการอนุมัติสินเชื่ออย่างง่ายดาย
ความคืบหน้ากรณีพบผู้เสียหายหลายรายที่จังหวัดเชียงใหม่ร้องเรียนขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับการขอสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธ.ก.ส.) สาขาแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างบ้านในตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ แต่กลับสร้างไม่เสร็จ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้อย่างมากเนื่องจากต้องแบกรับภาระหนี้สิน ทั้งๆ ที่ไม่ได้บ้านอยู่อาศัยตามวัตถุประสงค์ โดยพบความผิดปกติหลายอย่างเกี่ยวกับนายหน้าที่ชักชวนซื้อที่ดินสร้างบ้านและการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารที่ง่ายดาย
วันนี้(9 พ.ย.64) นายอภิชาติ เหมือนมนัส นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องที่มีการร้องเรียนขอความเป็นธรรมดังกล่าวแล้ว และทราบว่ามีผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้ประสานกับทางกำนันตำบลป่าแดด ในการลงพื้นที่พรุ่งนี้(10 พ.ย.64) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาทางช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้เสียหายกรณีที่เกิดขึ้น ส่วนที่มีการระบุว่ามีอดีตผู้ใหญ่บ้านเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ด้านนายวีระชัย ไชยมงคล กำนันตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทราบเรื่องกรณีความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดขึ้นแล้ว และประสานกับทางนายอำเภอเมืองเชียงใหม่ เพื่อเตรียมที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลจากผู้เสียหาย ซึ่งประเด็นที่มีการระบุว่าอดีตผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งในตำบลป่าแดด เป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขอสินเชื่อให้กับผู้เสียหายที่ ธ.ก.ส.สาขาแม่เหียะ นั้น ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้เพราะต้องตรวจสอบเสียก่อน
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีที่เกิดขึ้นทางกลุ่มผู้เสียหายให้ข้อมูลตรงกันว่าซื้อบ้านกับนายหน้าชื่อ “นางหน่อย” ที่เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านในตำบลป่าแดด ซึ่งทุกครั้งที่ไปธนาคารจะมีนายหน้ารายนี้ไปพร้อมกับผู้รับเหมาก่อสร้างที่ชื่อ “นายประยูร” ทุกครั้ง โดยภายหลังที่มีการร้องเรียน ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อ “นางหน่อย” ได้ ส่วน “นายประยูร” ได้ติดต่อแจ้งกับผู้เสียหายบางรายว่าจะสร้างบ้านต่อให้เสร็จภายในสิ้นเดือน พ.ย.64 นี้ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาเคยรับปากเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว
ขณะเดียวกันรายงานข่าวแจ้งว่า ทางกลุ่มผู้เสียหายมีการปรึกษาหารือกันว่า เตรียมที่จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีหรือลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจไว้เพื่อเป็นหลักฐาน รวมทั้งอยากแต่งตั้งทนายความให้ช่วยดูแลการต่อสู้คดี อย่างไรก็ตามมีข้อจำกัดตรงที่ผู้เสียหายแต่ละรายต่างไม่มีกำลังทรัพย์ จึงยังไม่สามารถดำเนินการได้ และเป็นไปได้อยากร้องขอความช่วยเหลือจากทนายความอาสา.