“เชียงใหม่” พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 27 ราย พบคลัสเตอร์ปาร์ตี้ดี ฮัท รีสอร์ท ติดเชื้อยกก๊วน เว้นเพียงรายเดียวที่เคยป่วยมาก่อน พร้อมแจ้งให้พนักงาน บ.แพนดอร่า ที่พักอยู่จังหวัดเชียงใหม่ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อฯ อย่างเคร่งครัด
วันนี้ (23 ส.ค. 64) ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ประจำวัน ว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 27 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัดจากคลัสเตอร์เดิมที่ยังพบผู้ติดเชื้อระหว่างกักตัวอยู่ ส่วนการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัส เมื่อวานนี้ (22 ส.ค. 64) ตรวจทั้งหมด 1,277 ราย พบผู้มีผลบวก 24 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.88 นอกนั้นเป็นผู้มีผลบวกมาจากต่างจังหวัดที่ขอกลับมารักษายังภูมิลำเนา ส่วนปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อหลักๆ พบว่า ติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัวเพิ่มสูงขึ้นมาก สัมผัสจากแหล่งระบาดในต่างจังหวัด ยังคงมีสัดส่วนที่สูงอยู่ การสัมผัสในที่ทำงานและการสัมผัสในชุมชน มีสัดส่วนที่ลดลง
ด้านการตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง แรงงานต่างด้าว คนงานเก็บลำไย ดำเนินการแล้ว 13 อำเภอ โดยเมื่อวานนี้อำเภอแม่แตงลงพื้นที่ตรวจคนงานเก็บลำไยเพิ่ม 11 ราย ผลเป็นลบทั้งหมด ด้านการตรวจผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัด ที่สนามบินเชียงใหม่ ตรวจ 7 ราย ผลเป็นลบทั้งหมด ที่สถานีรถไฟ 44 ราย ผลบวก 1 ราย สถานีขนส่งอาเขต 3 ราย รถยนต์ส่วนตัวที่ด่านดอนจั่น 64 ราย ผลเป็นลบทั้งหมด ส่วนที่ด่านสารภี ตรวจพนักงานขับรถบรรทุกและผู้ติดตาม 53 ราย พบผู้มีผลบวก 1 ราย และด่านดอยเต่าตรวจ 30 ราย ไม่พบผู้มีผลบวก ส่วนการตรวจเชิงรุก เมื่อวานนี้ทีมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ลงตรวจชุมชนช้างคลาน 15 ราย ผลเป็นลบทั้งหมด
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้ง 27 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด 21 ราย โดยมาจากคลัสเตอร์ต่างๆ ได้แก่ คลัสเตอร์ตำบลหางดง อำเภอฮอด พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 115 ราย , คลัสเตอร์ชุมชนช้างคลาน พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 46 ราย โดยผู้ติดเชื้อ 2 รายอยู่ที่ตึกสีฟ้า ครอบครัวคนขายหมาก และอีก 1 รายเป็นญาติของคนที่ไปซื้อหมาก ซึ่งวันนี้เทศบาลนครเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่ตรวจเชิงรุก 364 ราย พบผู้มีผลตรวจจาก ATK 4 ราย กำลังอยู่ระหว่างส่งตรวจยืนยันผล และในวันพรุ่งนี้จะมีการลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกอีกครั้ง , คลัสเตอร์ โกดังลำไย บ้านเป้า อำเภอแม่แตง พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 33 ราย โดยผู้ติดเชื้อทั้ง 2 ราย เป็นผู้สัมผัสระหว่างทำอาชีพเก็บลำไย
โดยในวันพรุ่งนี้จะมีการลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกในตำบลบ้านเป้า และตำบลน้ำแพร่อีกครั้ง , คลัสเตอร์กิจกรรมรวมกลุ่มตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2 ราย เป็นผู้สัมผัสในการทำกิจกรรม และเพิ่งเข้ารับการตรวจเป็นครั้งแรก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดแยกกลุ่มเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำเพิ่ม รวมผู้ติดเชื้อสะสมคลัสเตอร์นี้ 9 ราย, คลัสเตอร์ หจก.ลิ้มเกียรติเจริญ พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย รวมผู้ติดเชื้อเฉพาะคลัสเตอร์นี้ ไม่รวมการร่วมรับประทานอาหารที่ หมู่ 4 ตำบลหนองจ๊อม 7 ราย , คลัสเตอร์ปาร์ตี้ ดี ฮัท รีสอร์ท พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 4 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 7 ราย เป็นผู้ร่วมปาร์ตี้ 4 คน และเด็กเอ็น (Entertain) หรือสาวให้บริการ 4 คน โดยพบผลเป็นบวก 7 ราย และอีก 1 ราย เป็นผู้ป่วยเดิมซึ่งมีภูมิคุ้มกันอยู่แล้ว ทั้งนี้จึงขอประกาศให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ร่วมงานปาร์ตี้ที่โรงแรม ดี ฮัท รีสอร์ท และเคยเรียกรับบริการจากเด็กเอ็น (Entertain) ทั้ง 4 ราย ระหว่างวันที่ 18-21 สิงหาคม เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านโดยด่วนพร้อมทั้งกักตัว 14 วัน
สำหรับคลัสเตอร์ใหม่ บ้านแม่สาใหม่ หมู่ 6 และ หมู่ 10 ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย เป็นน้องสาวของผู้ติดเชื้อรายเดิม ที่หมู่ 6 ตำบลโป่งแยง มาช่วยทำสวนที่หมู่ 10 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามแยกกลุ่มเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ และวางแผนคัดกรองรอบ 2 รวมผู้ติดเชื้อสะสมคลัสเตอร์นี้ 10 ราย ที่เหลือเป็นการติดเชื้อในครอบครัวที่ หมู่ 5 ตำบลหนองบัว อำเภอไชยปราการ 4 ราย, ครอบครัว หมู่ 2 ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม 1 ราย และสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า 2 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้ามาจากต่างจังหวัดพบ 6 ราย มาจากกรุงเทพฯ 1 ราย ระยอง 1 ราย ชลบุรี 1 ราย อยุธยา 2 ราย และเชียงราย 1 ราย
นอกจากนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้พิจารณาถึงการระบาดโรคโควิด-19 ในบริษัทแพนดอร่า ที่จังหวัดลำพูน โดยขณะนี้พบผู้ป่วยแล้วกว่า 100 ราย และพบว่ามีพนักงานของบริษัทเป็นชาวเชียงใหม่ ที่เดินทางไปทำงานเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาด จึงได้กำหนดมาตรการควบคุมการเดินทางของพนักงานบริษัทแพนดอร่า จำกัด และขอให้ทำตามมาตรการที่จังหวัดเชียงใหม่กำหนดอย่างเคร่งครัด
ดร.ทรงยศ ได้กล่าวถึงกรณีที่มีมิจฉาชีพ หลอกลวงให้มีการโอนเงิน เพื่อจองวัคซีนไฟเซอร์ โดยอ้างชื่อโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่นั้น ขอเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด และตามข้อเท็จจริงแล้วขณะนี้วัคซีนไฟเซอร์ มีฉีดให้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าเท่านั้น รวมทั้งวัคซีนทางเลือกอื่นๆ หากมีผู้ส่งข้อความ SMS ให้โอนเงินจองวัคซีน ขอให้สอบถามไปยังโรงพยาบาลที่ได้มีการแอบอ้างก่อน