กรณีโชเฟอร์ขับรถตู้ฆ่าปาดคอเศรษฐินีโยนศพทิ้งป่าละเมาะริมทางขึ้นบ้านแม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่ ตำรวจพบพิรุธก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตเบิกเงินสดไป 800,000 บาท เร่งขยายผลคนใกล้ชิดผู้ต้องหา
ตำรวจ สภ.แม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ควบคุมตัวนายนวฤทธิ์ วนิชจินดา อายุ 37 ปี โชว์เฟอร์ขับรถตู้ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณป่าริมถนนสายแม่ออน-แม่ตะไคร้ ตำบลสหกรณ์ อำเภอแม่ออน ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาใช้มีดปอกผลไมัปาดคอ และแทงบริเวณท้องของนางสาวผ่องศรี มธุรณานนท์ อายุ 70 ปี เสียชีวิต ก่อนนำศพทิ้งภายในป่าดังกล่าว เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาให้การกับตำรวจอ้างว่ามีความสัมพันธ์สนิทสนมกับนางสาวผ่องศรี มานานหลายปี ซึ่งวันเกิดเหตุเขาอยากจะพูดคุยเพื่อยุติความสัมพันธ์นี้ เพราะตัวเขาเองก็มีภรรยาแล้ว แต่ตกลงกันไม่ได้จึงพลั้งมือฆ่า ก่อนจะขับรถไปขโมยตู้เซฟของผู้เสียชีวิตในห้องพัก แต่พอตำรวจเค้นสอบไปสอบมา ผู้ต้องหาให้การวกวน ก่อนจะกลับลำสารภาพว่าแท้จริงแล้วเขามีประสบปัญหาเรื่องการเงินหนักมาก มีหนี้สินกว่า 800,000 บาท ทั้งค่ารถ ค่าบ้าน รวมถึงชอบเล่นพนันออนไลน์ อีกทั้งช่วงนี้อาชีพขับรถตู้ส่งนักท่องเที่ยวแทบจะไม่มีลูกค้าเลย จึงเกิดความเครียดไม่รู้จะหาเงินจากไหนไปใช้หนี้ จึงวางแผนว่าจะขอยืมเงินจากนางสาวผ่องศรี เพราะรู้จักกันมานานกว่า 5 ปี ขับรถรับส่งตลอด พาไปธุระต่าง ๆ มากมาย อีกทั้งเธอก็ยังใจบุญชอบช่วยเหลือผู้อื่นด้วย น่าจะสามารถช่วยเหลือเขาได้
วันเกิดเหตุ เขาจึงชวนนางสาวผ่องศรีไปทำบุญที่บ้านแม่คำปอง ระหว่างทางก็เอ่ยปากขอยืมเงิน 300,000 บาท แต่นางสาวผ่องศรีบอกว่าจะช่วยแค่ 20,000 บาท แม้จะพยายามอ้อนวอนแค่ไหน เธอก็ไม่ใจอ่อน เขาจึงพูดจาข่มขู่สารพัด ทำให้นางผ่องศรีโกรธแล้วโทรศัพท์เรียกให้คนอื่นมารับ เขาจึงโมโหขับรถพุ่งเข้าป่าข้างทาง จังหวะนั้นนางผ่องศรี ก็โมโหเช่นกันเปิดประตูรถเดินออกไป ส่วนเขาก็หยิบมีดปอกผลไม้ลงจากรถเดินตามไป และพูดจาหว่านล้อมขอยืมเงินอีก แต่อีกฝ่ายเมินเฉยไม่สนใจ เขาจึงเข้าล็อกคอ แล้วใช้มีดปาดคอ ก่อนลากเข้าไปในป่าข้างทาง ซึ่งเป็นปากเหวลึกประมาณ 20 เมตร จากนั้นก็ใช้มีดจ้วงแทงที่ท้องอีก 1 ครั้ง จนเสียชีวิต แล้วผลักลงเหวเพื่ออำพรางศพ
หลังจากนั้น เขาขับรถไปที่คอนโดมิเนียมของผู้เสียชีวิต เพื่อให้กล้องวงจรปิดจับภาพว่าเขาได้มาส่งผู้เสียชีวิตที่คอนโดแล้ว จากนั้นก็แอบขึ้นคอนโดมิเนียม ค้นห้องพักหาทรัพย์สินมีค่า แล้วยกตู้เซฟออกมา แต่เปิดไม่ได้ จึงเอาโยนทิ้งคันคลองชลประทาน ส่วนทรัพย์สินติดตัวของผู้เสียชีวิตได้ไปเพียงเงินสดจำนวน 20,000 บาท
ผู้กำกับการ สภ.แม่แม่ออน เปิดเผยว่า การให้ปากคำของผู้ต้องหาหลายครั้งไม่ตรงกัน ทำให้ตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อทั้งหมด เพราะจากข้อมูลการสืบสวน พบว่าก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะออกไปกับผู้ต้องหา เพิ่งไปเบิกเงินสดจำนวน 800,000 บาท แต่หลังเกิดเหตุเงินส่วนนี้หายไป อีกทั้งยังมีทรัพย์สินอื่น ๆ อาทิ สร้อย แหวน ที่ยังไม่รู้ว่าหายไปไหน ซึ่งจะรอให้ทางญาติของผู้เสียชีวิตมายืนยันอีกครั้ง
นอกจากนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบเพิ่มเติมอีกว่า ผู้ต้องหาได้มีการทำธุรกรรมโอนเงินไปให้ใคร หรือมีผู้ใกล้ชิดได้รับเงินจากผู้ต้องหาหรือไม่ หากพบว่าเกี่ยวข้องก็จะเอากลับคืนมาทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจแจ้ง 5 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฆ่าชิงทรัพย์ ซ่อนเร้นอำพรางศพ พกพาอาวุธมีด และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน