วันนี้ (9 พ.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ (สสจ.เชียงใหม่) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่ พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่เพิ่มอีก 25 คน ยอดป่วยสะสม 3,894 คน ผู้ป่วยรักษาหายออกจากโรงพยาบาลแล้ว 3,132 คน ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 751 คน ในจำนวนนี้อาการหนัก (สีแดง) 20 คน อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 47 คน อาการปานกลาง (สีเหลือง) 117 คน และอาการน้อย (สีเขียว) 562 คน โดยผู้ป่วยรักษาโรงพยาบาลสนาม 451 คน โรงพยาบาลรัฐ 191 คน โรงพยาบาลเอกชน 86 คน ฮอสพิเทล 18 คน โรงพยาบาลต่างจังหวัดและอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 5 คน และผู้ป่วยในเรือนจำกลางเชียงใหม่ 324 คน ทั้งนี้ วันนี้มีผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 11 คน
ขณะที่นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมีการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยกระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้จังหวัดชายแดนเฝ้าระวังตรวจตรา ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ เน้นย้ำอำเภอที่ติดชายแดน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่อาย อำเภอฝาง อำเภอเชียงดาว อำเภอไชยปราการ และอำเภอเวียงแหง รวมทั้งอำเภอที่ติดต่อกับจังหวัดชายแดน คือ จังหวัดแม่ฮ่องสอนและจังหวัดตาก พบว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้ทำการจับกุมกลุ่มแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองในอำเภอฮอดและอำเภออมก๋อย ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างยิ่ง ในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้หน่วยงานความมั่นคง ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ตั้งจุดตรวจจุดสกัด รวมทั้งมีการป้องกันการลักลอบกลุ่มแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ พร้อมทั้งกำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน รวมทั้งอาสาสมัครต่างๆ ในพื้นที่ สอดส่อง และตรวจตราบุคคลที่เดินทางเข้าออกในหมู่บ้านของตน เพื่อไม่ให้มีการลักลอบเข้ามาในพื้นที่ และขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ช่วยกันดูแลสอดส่อง โดยเฉพาะในกลุ่มของสถานประกอบการ เจ้าของหอพัก และเจ้าของโรงงาน ห้ามมิให้มีการจ้างงานหรือการให้ที่พักพิงแก่แรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายเข้าพัก