เชียงใหม่พบผู้ป่วยโควิดอีก4ราย ออกคำสั่งสถานบันเทิง-ร้านอาหาร-ร้านข้าวต้ม จำหน่ายแอลกอฮอลล์ต้องปิด23.00น.เริ่ม6เมษาฯ
เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 5 เมษายน 2564 ที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจ จ.เชียงใหม่ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทนย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 4 ราย โดยเป็นการนำเข้าจากสถานบันเทิงกรุงเทพมหานคร
นายวีระพันธ์ กล่าวว่า วันนี้คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด มีการประชุมหารือหลังพบการติดเชื้อในพื้นที่ ตลอดเวลา 83 วัน เราไม่พบในพื้นที่ แต่วันนี้เราพบผู้ติดเชื้อจากการเดินทางไปกรุงเทพ และติดเชื้อกลับมา จำเป็นต้องเตรียมการป้องกันเพราะใกล้เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางเข้ามาจำนวนไม่น้อย ต้องควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปมากกว่านี้ เราจะเน้นไปที่สถานบริการและร้านที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ต้องปิดทำการหลังเวลา 23.00 น. ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน ไปจนถึง 30 เมษายนนี้ และต้องทำระบบหมุนเวียนอากาศตามที่กำหนดไว้
หากฝ่าฝืนจะต้องสั่งปิดตามนโยบายที่มีมาตรการไว้ ในส่วนการคัดกรองจะยังมีคงเดิม การตั้งด่านทางรถก็จะเข้มงวดควบคู่การคัดกรองโรค อย่าตื่นตระหนกแต่ไม่ประมาทขอให้ปฏิบัติตาม หากมีส่วนสัมผัสกับผู้ป่วยขอให้ไปพบแพทย์เพื่อยืนยันว่าปลอดจากเชื้อ
นพ.จตุชัย กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่จำนวนทั้งสิ้น 4 ราย จากการายงานของคณะกรรมการประชุมเพื่อวิเคราะห์และติดตามผู้ป่วย ยกระดับมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้มีการะระบาดในวงกว้าง และไม่ให้มีรายใหม่เข้ามาอีก ผู้ป่วยมีความเชื่อมโยงการระบาดในพื้นที่กรุงเทพฯ จาก 69 ราย นานกว่า 3 เดือน ดังนั้น 4 รายจะเป็นรายที่ 70 รายที่ 71 รายที่ 72 และรายที่ 73
“3 รายแรก เป็นชายอาศัยในเขตเมืองทั้งหมด คือ รายที่ 70-72 เดินทางไปด้วยกัน จาก 5 รายที่เป็นกลุ่มเพื่อนกัน โดยวันที่ 27 มีนาคม จำนวน 4 คน เดินทางไปทำธุระทางรถยนต์ที่ ชะอำ จ.เพชรบุรี พบติดเชื้อ 2 คน วันที่ 29 มีนาคม กลับมากรุงเทพ และพบเพื่อนอีก 1 คน ที่บินไปโดยเครื่องบินและพบว่าติดเชื้อรวม 3 ราย ซึ่งทั้งหมดพักที่โรงแรมติวารี ทองหล่อ
มีการเดินทางในย่านดังกล่าว วันที่ 30 มีนาคม ไปซื้อของย่านแพลตตินัม และเยาวราช เวลา 22.00-02.00 ไปร้าน top one pub แถวรัชดา วันที่ 31 มีนาคม ทั้ง 4 คนนั่งรถกลับ อีกคนกลับโดยสายการบินเวียดเจ็ต VZ 2104 เวลา 16:15-17:25 น. ที่นั่ง 19F และวันที่ 31 มีนาคม-1 เมษายน พบข่าวว่ามีผู้ติดเชื้อที่กรุงเทพ เลยกักตัวอยู่บ้าน ซึ่งรายที่ 70 มีครอบครัวเลยแยกตัวและสังเกตอาการ วันที่ 3 พบมีอาการไข้ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก เจ็บคอเล็กน้อย ไปตรวจ
โรงพยาบาลเอกชนพบเชื้อ จึงมีการตามประวัติและพบว่าติดเชื้อเพิ่มอีก 2 คน ส่วนอีก 2 คน ยังไม่พบเชื้อแต่ต้องรอการตรวจอีก 2 ครั้ง ขณะนี้ทั้ง 3 คน เข้ารับการรักษาโรงพยายาลนครพิงค์แล้ว และต้องรอข้อมูลเพิ่มเติมอีกตามความเร่งด่วน มีผู้เสี่ยงสูง 131 ราย เสี่ยงสูงในครอบคัรว 7 ราย โดย 6 รายมีผลลบ
อีกรายรอผลตรวจตัวอย่าง เพื่อนอีก 2 ราย ยังไม่พบเชื้อ รอการนัดตรวจอีก 2 ครั้ง และควบคุมตนเอง ผู้สัมผัสในยานพาหนะ 23 คน ในเที่ยวบินสุวรรณภูมิ แถวที่ 17-21 อย่ระหว่างตามตัวตรวจหาเชื้อ มีความเสี่ยงต่ำ 99 ราย ในเที่ยวบินเดียวกันแต่ที่นั่งไกลกัน”
นพ.จตุชัย กล่าวอีกว่า ช่วงบ่ายพบผู้ป่วยรายที่ 4 เป็นรายที่ 73 ของเชียงใหม่ เป็นชายชาวจีน อายุ 28 ปี อาศัยอยู่ที่เชียงใหม่ อาชีพธุรกิจส่วนตัว เร่ิมมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดศรีษะ วันที่ 4 เมษายน 2564 โดยวันที่ 28 มีนาคม เดินทางกรุงเทพฯ พร้อมเพื่อน 2 คน เที่ยวบิน FD 7428 เข้าพักโรงแรม ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม -1 เมษายน ไปแถว วันที่ 30-31 มีนาคม 2564 เดินทางไปพันธ์ทิพย์ number 1 รัชดา และบางแคซอย 8 วันที่ 1 เมษายน เวลา 18.20-19.40 น.
เดินทางกลับจากท่าอากาศยานดอนเมือง เที่ยวบิน FD 4116 รับประทานอาหารปิ้งย่างย่านช้างเผือก วันที่ 2 เมษายน รับประทานอาหารเช้า แอพพลาซ่า 77 ใกล้สนามบิน และอาหารเย็นที่ตลาดทิพยเนตร วันที่ 3 เมษายน เวลา 18.00-20.00 น. เซ็นทรัลเฟสติวัล ตลาดทิพยเนตร และกาดมณี วันที่ 4 เมษายน อาหารเช้าที่ แอพพลาซ่า 77 ใกล้สนามบิน ไปตรวจโรงพยาบาลเอกชน วันที่ 5 เมษายน ผลการตรวจพบสารพันธุกรรมเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ กำลังติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง คือ ภรรยา และเพื่อน 2 คน รอไทม์ไลน์ที่ชัดเจนอีกครั้ง
“ห่วงเรื่องผู้เดินทางเข้ามาทั้งท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาเพื่อเยี่ยมญาติ เชียงใหม่ต้องยกระดับมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการระบาดในวงกว้าง”