24 มี.ค.64 – ศ. คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) และ นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ยเทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการว่าด้วย “5G Powered Smart University Enabledwith Cloud and AI” วันที่ 22 มีนาคม 2564 เวลา 10.00 น. ณ สำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับและติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและการใช้เทคโนโลยี 5G ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย เพื่อให้มีห้องเรียนอัจฉริยะและโซลูชั่นเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้ดียิ่งขึ้นนอกเหนือไปจากการมีความร่วมมือด้านวิจัยที่กว้างขึ้นแล้ว ยังให้บริการเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Big Data และบริการ Cloud ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อกับหน่วยงานอื่น ๆ ภายในมหาวิทยาลัย เช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ เกษตรศาสตร์ ศูนย์บริหารและการจัดการเมืองอัจฉริยะ สำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะแพทยศาสตร์ จะกลายเป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะโดยได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัลล่าสุดและบริการขั้นสูงด้วยเทคโนโลยี 5G และเทคโนโลยีด้านอื่น ๆบันทึกข้อตกลงฉบับนี้
“มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีเป้าหมายที่จะเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคอาเซียนและเป็นผู้นำด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่เพิ่มพูนเทคโนโลยีและการพัฒนาทักษะซึ่งนอกเหนือจากข้อได้เปรียบทางวิชาการแล้วยังเป็นแบบอย่าง สำหรับอุตสาหกรรมอื่นๆที่จะรับทราบถึงประโยชน์ของโซลูชันที่รวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้กับธุรกิจเฉพาะของตน และความร่วมมือของ มช. กับ หัวเว่ย ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของมหาวิทยาลัยที่จะนำความทันสมัยของเทคโนโลยี 5G มาขับเคลื่อนพัฒนาการศึกษาพร้อมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีสนับสนุนการวิจัยที่รองรับการเติบโตของโลกยุคดิจิทัลและนำมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยอัจฉริยะ 5G แห่งแรกในอาเซียน CMU : MovingForward to “5G Campus : First in ASEAN” (The First 5G campus in ASEAN) ยกระดับมาตรฐานการศึกษาของไทยให้ดียิ่งขึ้น “ศ.คลินิก นพ.นิเวศน์ กล่าว
ในการลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว ได้รับเกียรติ จากศ.เกียรติคุณ นพ. เกษม วัฒนชัย องคมนตรีและนายกสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีพร้อมด้วย นายพิริยะ เข็มพลอดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และรองศาสตราจารย์ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามด้วย
ศ. เกียรติคุณ นพ. เกษม วัฒนชัย นายกสภา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สำหรับการพัฒนาในยุคดิจิทัลเทคโนโลยี 5G นับว่าเป็นกุญแจสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ อุตสาหกรรมเพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านเชิงดิจิทัลในทุกๆ ด้าน อาทิ Smart Agriculture, Smart Hospital,Smart City, Smart Port, Smart Campus, Smart Store และ Smart Entertainment เพื่อสร้างการเติบโตทั้งต่อเศรษฐกิจและสังคมของไทย ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G เพื่อการศึกษาและนำไปสู่ Digital Transformation ซึ่งเป็นเป้าหมายที่จะพัฒนาให้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก้าวไปเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัลชั้นนำ และยังตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาประเทศได้
ในส่วนของศ. ดร. นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล รองอธิการบดี ได้กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และหัวเว่ยประสบความสำเร็จในการเป็นพันธมิตรทางวิชาการเป็นอย่างดีและผมมั่นใจว่าความร่วมมือในวันนี้จะก่อให้เกิดความสำเร็จในการนำเทคโนโลยี 5G มาประยุกต์ใช้ไม่เพียงแต่ด้านการศึกษา แต่รวมทั้งการพัฒนาในด้านอื่นๆ ต่อไปเพราะนโยบายของเราคือการเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัลโดยเราจะสร้างความร่วมมือกับองค์กรทั้งในภาครัฐและเอกชนต่างๆ เพื่อการเป็น'มหาวิทยาลัยชั้นนำที่มุ่งมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาที่ยั่งยืน
ด้านนายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร หัวเว่ย กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อีกครั้งหัวเว่ยมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนางานร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมีจำนวนนักศึกษากว่า 35,000 คน โดยการนำเทคโนโลยี 5G มาใช้ จะก่อให้เกิดประโยชน์ในระยะยาวไม่เพียงแต่นักศึกษา อาจารย์และบุคลากรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสังคม ท้องถิ่น และประเทศโดยรวม
สำหรับการลงนาม บันทึกความร่วมมือดังกล่าว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ลงนามกับหัวเว่ยครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 เพื่อพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้าน ICT ผ่านโครงการ Huawei ICT Academyซึ่งเปิดสอนหลักสูตรภาคปฏิบัติและการฝึกอบรมภาคปฏิบัติสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอาชีพที่ประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัลต่อไป